พอเจ้าของที่เก่าที่ทาง เข้าออกตาย นายทุนใหม่มาซื้อก็เลยกลั้นแกล้ง ปิดตายเอาปูน สังกะสี มาปิดทางเข้าออก (ตามคลิปบริเวณนั้นเป็นทางเข้าออก) 4 ครั้งแล้ว บางครั้งแกก็ทนไม่บอกใครทั้งทีมีลูกศิษย์มากมาย กลัวว่าบอกแล้วลูกศิษย์จะเดือดร้อน เสียการงานมาดู ฟ้องศาลสู้กันมาจนถึงศาลฏีกาก็แพ้

ปิดตายอีกครั้งท่านก็ทนอยู่ในสวนบ้านท่าน 20 กว่าวัน เก็บผักผลไม้กินประทังชีวิต ดีที่ว่ามีข้าวสารเต็มถัง มีเพื่อนบ้านที่ดั้งเดิมมาส่งข้าวอาหารให้ก็โดนขู่ไปตามๆกัน จนวันที่ 20 กว่าที่โดนขังคุณตาอายุ 97 ร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้ว ยาที่กินหมด ท่านเลยโทรไป สน.ท่าพระให้ตำรวจมาช่วยเปิดทางให้
ตำรวจก็มาเปิดให้ เชื่อมั๊ยครับสุดท้ายตำรวจ 2 นายที่มาเปิดให้กับครูผม2คนโดนฟ้องทำลายทรัพย์สินกับบุกรุกอีก ตรวจสอบเรื่องได้ครับที่ สน.ท่าพระ ทำไมถึงต้องฟ้องทำตำรวจด้วยเพื่อที่ว่าคราวหลังจะได้ไม่มีใครกล้ามาช่วย ถ้าใครมาช่วยก็จะโดนฟ้องหมด กะจะให้พวกท่านตายเลยรึครับเพราะอะไรถึงแพ้ ก็รู้กันอยู่ทำไมถึงแพ้นายทุน ถามใครๆ ก็บอกชนะอยู่แล้ว เข้าออกทางนี้มานาน แต่ในความเป็นจริง เค้าจะให้เข้าออกทางคูน้ำซึ่งเป็นทางสาธารณะจริง (ตามคลิปใต้สะพานคือคูน้ำ)ที่ไม่ได้ใช้งาน คนแก่ 3 คนจะเดินออกยังไง
ใจลึกๆอยากให้นายทุนมา เดินให้ดูก่อนว่าเดินไม่ได้จริงๆ วันนี้ผมในฐานะลูกศิษย์มาทำสะพานปูนให้ท่านใหม่ แทนสะพานไม้ที่เริ่มผุพังกลัวจะหักเวลาท่านเดิน พวกนายทุนก็ส่งคนมาถ่ายรูปคงเตรียมไว้ฟ้องอีกตามเคย ทั้งที่ทำในเขตบ้านท่านไม่ได้รุกล้ำในเขตของนายทุนเลยสักนิด ร้องทุกข์ทุกที่แล้วก็เงียบครับ ศูนย์ดำรงธรรม,คสช,เรื่องราวมันเยอะเกินบรรยาย สุดท้ายคงพึ่งได้แต่พลังโซเซี่ยล พลังสื่อมวลชน อยากให้คนใหญ่โตในบ้านเมืองไทยเมตตาท่านเหลียวมาแลให้ความเป็นธรรมกับท่าน บ้าง แม่พิมพ์ของชาติผู้เสียสละอย่างแท้จริง
ปล.ข้อความทั้งหมดคือเรื่องจริงผมขอเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก
ไม่มีความคิดเห็น: