Slider[Style1]

my-style

หน้าเว็บ

Style3[OneLeft]

หน้าเว็บ

Style3[OneRight]

Style4

Style5[ImagesOnly]

กระจ่าง แจ่มแจ้ง สักที! วิธีทำไข่เยี่ยวม้า ทำกินเองได้แล้วทำขายสร้างอาชีพอยู่รอดถึงขั้นรวยๆ!!!

กระจ่าง แจ่มแจ้ง สักที! วิธีทำไข่เยี่ยวม้า ทำกินเองได้แล้วทำขายสร้างอาชีพอยู่รอดถึงขั้นรวยๆ!!!
วิธีทำไข่เยี่ยวม้า ทำกินเองได้สร้างอาชีพอยู่รอดถึงขั้นรวยๆ!!! ไข่เยี่ยวม้า ไม่จำเป็นต้องเป็นไข่เป็ด แต่พวก ไข่ไก่ ไข่นกกระทาก็ได้เช่นกัน แต่เหตุผลที่เลือกไข่เป็ดเพราะไข่แดงจะใหญ่และเยอะกว่าไข่ชนิดอื่น เรามาดูวิธีทำ ไข่เยี่ยวม้า ในขั้นตอนดังนี้ค่ะ

สูตร ไข่ 15 ฟอง
ไข่เป็ด 15 ฟอง
ปูนขาว 300 กรัม
เกลือ 200 กรัม
ใบชาดำ 30 กรัม
น้ำสะอาด 2 ลิตร
สังกะสีออกไซด์ 1 กรัม
โซเดียมคาร์บอเนต 120 กรัม



วิธีทำ
ล้างไข่ให้สะอาด เช็ดให้แห้ง แล้วเรียงไข่ลงไปในโหลสะอาด
ต้มน้ำ ใส่ปูนขาว เกลือ โซเดียมคาร์บอเนต ใบชาดำ ต้มให้ทุกอย่างละลาย แล้วปิดไฟ ยกลงมาตั้งพักไว้ให้เย็น
เมื่อน้ำที่ต้มเย็นได้ที่แล้ว กรองเอาเศษตะกอนออก และเติมสังกะสีออกไซด์ลงไป คนให้เข้ากัน
เทน้ำต้มลงไปในโหล ให้ท่วมไข่ หาถุงพาสติกใส่น้ำแล้วมัดปากถุงวางทับลงบนไข่เพื่อให้ไข่จมน้ำ (ถ้าไข่ลอยเหนือน้ำ ไข่จะเสีย) ปิดฝาโหลดด้วยผ้าข้าวบาง แช่ทิ้งไว้ 30 วัน
ครบวันที่กำหนด เทน้ำทิ้งในโหลทิ้ง ล้างไข่ด้วยน้ำสะอาด ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วเคลือบไข้ด้วยดินขาวผสมแป้งเปียก เก็บไว้ 10 วัน ก็นำไปประกอบอาหารได้


ที่เปลือกไข่มีสีชมพู ก็คิดว่าทาสีชมพูเพื่อให้รู้ว่านี้คือไข่เยี่ยวม้า แต่จริงๆ แล้ว สีชมพูที่เปลือกไข่เกิดจากปฏิกิริยาของปูนขาวที่ทำให้เปลือกไข่เป็ดสี ขาวกลายเป็นชมพู แต่ส่วนไข่เยี่ยวม้าที่ยังเป็นสีของเปลือกเดิมอยู่เพราะทำแล้วทานเลยไม่ได้ เก็บด้วยปูนขาว

ที่มา : siamupdate 

ชี้ช่องรวย ปลูกแก้วมังกรในกระถาง ..เกษตรพอเพียง...เห็นแล้วอึ้งเลยครับ

ชี้ช่องรวย ปลูกแก้วมังกรในกระถาง ..เกษตรพอเพียง...เห็นแล้วอึ้งเลยครับ

เกษตรพอเพียง...เห็นแล้วอึ้งเลยครับ

องค์ความรู้เมื่อก่อน เราท่านต่างก็เรียนเกษตรตามที่คุณครูสอน ไม่ได้เน้นหนักไปทางการปฏิบัติ อย่างมากที่สุดก็ยกร่องปลูกผักบุ้ง ปลูกข้าวโพด จำได้ว่าไม่เคยประสบผลสำเร็จเลย แต่ก็ยังชอบด้านการเกษตร ปลูกทุกอย่างที่ชอบ ปัจจุบันองค์ความรู้มีมากขึ้น ตลอดจนคนไทยเป็นนักคิด นักประดิษฐ์ ต่อยอดไปหลากหลายรูปแบบ และที่สำคัญมีการเผยแพร่มากขึ้น
เคยปลูกแก้วมังกรไว้ 2-3 ค้าง ด้วยใจรัก เพื่อไว้ทานผลที่ปลอดสารพิษ ก็ได้ผลบ้างปีละ 2-3 ลูก มาเปิดเจอการปลูกแก้วมังกรแบบใหม่ ได้ผลมาก ต้นหนึ่งให้ผลเป็น 10 กว่าลูก แถมใช้เนื้อที่น้อย การดูแลก็ทั่วถึง หากท่านสนใจน่าลองนำไปทดลองปลูกไว้ประดับบ้านเพื่อความสวยงาม และได้ผลเป็นของแถม (หากท่านเคยเห็นแล้วก็ขอโทษที่นำมาเผยแพร่ซ้ำครับ)
ไม่รอช้าทดลองทำทันที่ มองหาต้นแก้วมังกรข้างบ้าน ตัดมา 2-3 ท่อน



1.ท่อนพันธุ์แก้วมังกร 3-4 ท่อน
2.ท่อน้ำ PVC ประมาณ 80 ซ.ม.(ท่อนไม้ก็ได้)
3.กระถางดินเผา
4.เชือกฟาง
5.ดิน+เปลือกมะพร้าวสับ+ปุ๋ยคอก


ท่อนพันธุ์แก้วมังกรเป็นรูปสามเหลื่ยมให้เอาด้านแบนเข้าหาเสา



ผลผลิตจากการทดลอง 1 กระถาง/1ค้าง
การดูแลต้นแก้วมังกร
1.การรดน้ำให้รดน้ำเพียง 1 ครั้งภายใน 2-3 วัน และไม่ควรรดมากเกินไปเพราะอาจทำให้เป็นโรคโคนเน่า
2.การให้ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยทุก 15 วัน ใส่ครั้งละ 2-4 ช้อนโต๊ะ สูตรที่ใช้ 15-15-15 หรือ 16-16-16 หลังจากใส่ปุ๋ยแล้วต้องรดน้ำติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน(วันละครั้งเช้าหรือเย็นก็ได้)ถ้ามีปุ๋ยคอกให้ใส่เดือนละ 1 ครั้ง เมื่อปลูกได้เป็นระยะเวลา 6 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ผสมกับ 15-15-15 ในอัตราส่วยครึ่งต่อครึ่ง
เมื่อปลูกแก้วมังกรได้ 8 เดือน-1 ปี ก็จะเริ่มให้ผลผลิตประมาณ 30 ผลต่อ 1 ค้าง ปีที่ 2 ประมาณ 50 ผลต่อ 1 ค้าง ปีที่ 3 ประมาณ 100-200 ผลต่อ 1 ค้าง ปีที่ 4 ประมาณ 300 ผลต่อ 1 ค้างขึ้นไป ขนาดของผลโดยเฉลี่ย 3-4 ผลต่อ 1 กิโลกรัม

ที่มา :  kasetporpeangclub