Slider[Style1]

my-style

หน้าเว็บ

Style3[OneLeft]

หน้าเว็บ

Style3[OneRight]

Style4

Style5[ImagesOnly]

อย่ารู้ช้าไป!! 7 วิธี กระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติ ทำแล้วผิวหน้าละเอียดขึ้น ด้วยสูตรนี้!

อย่ารู้ช้าไป!! 7 วิธี กระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติ ทำแล้วผิวหน้าละเอียดขึ้น ด้วยสูตรนี้!

วิธีการทำ
1.นำน้ำผึ้งมาผสมกับโยเกิร์ต
2.นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
หรืออาจจะนำน้ำผึ้งมานวดหน้าอย่างเดียวก็ได้ค่ะ
วิธีนี้นะคะจะช่วยลดริ้วรอย ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งมีประกาย และที่สำคัญช่วยให้รูขุมขนนั้นกระชับอีกด้วย
5.ใบบัวบก
วิธีการทำ
1.นำใบบัวบกมาปั่น และนำไปผสมกับน้ำเย็น
2.พอกทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที
3.ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ซึ่งใบบัวบกนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ต่อต้านการเสื่อมของเซลล์ต่างใน ร่างกายนั่นเอง แค่เพียงเท่านี้ก็สามารถกระชับรูขุมขนได้แล้วล่ะค่ะ
6.น้ำตาลทราย
วิธีการทำ
1.นำน้ำตาลทรายผสมกับน้ำผึ้งและนำมันมะกอก
2.นำไปทาบนใบหน้าแล้วขัดเบาๆ โดยค่อยหมุนนิ้วเป็นวงกลม เน้นบริเวณที่มีรูขุมขนกว้าง
3.ปล่อยทิ้งไว้ประมาร3-4 นาที
4.ล้างออกด้วยน้ำที่เย็นจัด
วิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมใช้กันมากเลยนะคะ ซึ่งน้ำผึ้งนั้นช่วยในการลดความมันบนใบหน้าและทำให้รูขุมขนบนใบหน้านั้นเล็ก ลงด้วยล่ะค่ะ
7.แตงกวา
วิธีการทำ
1.นำแตงกวามา 1 ลูกมาบดให้ละเอียด
2.นำมาผสมกับมะนาวประมาณ 2-3 หยด
3.แล้วนำมาทาบนหน้าทิ้งไว้ประมาณ 158-20 นาที
4.ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
วิธีนี้นะคะทำให้ใครหลายๆคนประทับใจมานักต่อนักแล้วล่ะค่ะ เนื่องจากในแตงกวานั้นทำให้เย็นจึงช่วยในเรื่องของการลดรูขุมขนด้วยนั่นเอง และมะนาวนั้นช่วยในการลกจุดด่างดำ และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอบนใบหน้าด้วยนั่นเองค่ะ
เป็นยังบ้างคะ 7 สูตรกระชับรูขุมขนที่เรานำมาฝากกันวันนี้ เป็นสูตรตามธรรมชาติไร้สารเคมีและปลอดภัยแน่นอนค่ะ ในแต่ละสูตรนอกจากจะช่วยลดรูขุมขนแล้วยังมีคุณสมบัติอื่นๆที่ช่วยบำรุงผิว อีกด้วย เรียกว่าคุ้มสุดๆไปเลยนะคะ วิธีการทำก็ทำไม่ยากและหาได้ง่ายด้วยล่ะค่ะ ยังก็ลองเลือกไปทำกันดูนะคะ ได้ผลยังไงอย่าลืมมาแชร์ให้ฟังกันด้วยนะคะ

กระจ่าง แจ่มแจ้ง สักที! วิธีทำไข่เยี่ยวม้า ทำกินเองได้แล้วทำขายสร้างอาชีพอยู่รอดถึงขั้นรวยๆ!!!

กระจ่าง แจ่มแจ้ง สักที! วิธีทำไข่เยี่ยวม้า ทำกินเองได้แล้วทำขายสร้างอาชีพอยู่รอดถึงขั้นรวยๆ!!!
วิธีทำไข่เยี่ยวม้า ทำกินเองได้สร้างอาชีพอยู่รอดถึงขั้นรวยๆ!!! ไข่เยี่ยวม้า ไม่จำเป็นต้องเป็นไข่เป็ด แต่พวก ไข่ไก่ ไข่นกกระทาก็ได้เช่นกัน แต่เหตุผลที่เลือกไข่เป็ดเพราะไข่แดงจะใหญ่และเยอะกว่าไข่ชนิดอื่น เรามาดูวิธีทำ ไข่เยี่ยวม้า ในขั้นตอนดังนี้ค่ะ

สูตร ไข่ 15 ฟอง
ไข่เป็ด 15 ฟอง
ปูนขาว 300 กรัม
เกลือ 200 กรัม
ใบชาดำ 30 กรัม
น้ำสะอาด 2 ลิตร
สังกะสีออกไซด์ 1 กรัม
โซเดียมคาร์บอเนต 120 กรัม



วิธีทำ
ล้างไข่ให้สะอาด เช็ดให้แห้ง แล้วเรียงไข่ลงไปในโหลสะอาด
ต้มน้ำ ใส่ปูนขาว เกลือ โซเดียมคาร์บอเนต ใบชาดำ ต้มให้ทุกอย่างละลาย แล้วปิดไฟ ยกลงมาตั้งพักไว้ให้เย็น
เมื่อน้ำที่ต้มเย็นได้ที่แล้ว กรองเอาเศษตะกอนออก และเติมสังกะสีออกไซด์ลงไป คนให้เข้ากัน
เทน้ำต้มลงไปในโหล ให้ท่วมไข่ หาถุงพาสติกใส่น้ำแล้วมัดปากถุงวางทับลงบนไข่เพื่อให้ไข่จมน้ำ (ถ้าไข่ลอยเหนือน้ำ ไข่จะเสีย) ปิดฝาโหลดด้วยผ้าข้าวบาง แช่ทิ้งไว้ 30 วัน
ครบวันที่กำหนด เทน้ำทิ้งในโหลทิ้ง ล้างไข่ด้วยน้ำสะอาด ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วเคลือบไข้ด้วยดินขาวผสมแป้งเปียก เก็บไว้ 10 วัน ก็นำไปประกอบอาหารได้


ที่เปลือกไข่มีสีชมพู ก็คิดว่าทาสีชมพูเพื่อให้รู้ว่านี้คือไข่เยี่ยวม้า แต่จริงๆ แล้ว สีชมพูที่เปลือกไข่เกิดจากปฏิกิริยาของปูนขาวที่ทำให้เปลือกไข่เป็ดสี ขาวกลายเป็นชมพู แต่ส่วนไข่เยี่ยวม้าที่ยังเป็นสีของเปลือกเดิมอยู่เพราะทำแล้วทานเลยไม่ได้ เก็บด้วยปูนขาว

ที่มา : siamupdate 

ชี้ช่องรวย ปลูกแก้วมังกรในกระถาง ..เกษตรพอเพียง...เห็นแล้วอึ้งเลยครับ

ชี้ช่องรวย ปลูกแก้วมังกรในกระถาง ..เกษตรพอเพียง...เห็นแล้วอึ้งเลยครับ

เกษตรพอเพียง...เห็นแล้วอึ้งเลยครับ

องค์ความรู้เมื่อก่อน เราท่านต่างก็เรียนเกษตรตามที่คุณครูสอน ไม่ได้เน้นหนักไปทางการปฏิบัติ อย่างมากที่สุดก็ยกร่องปลูกผักบุ้ง ปลูกข้าวโพด จำได้ว่าไม่เคยประสบผลสำเร็จเลย แต่ก็ยังชอบด้านการเกษตร ปลูกทุกอย่างที่ชอบ ปัจจุบันองค์ความรู้มีมากขึ้น ตลอดจนคนไทยเป็นนักคิด นักประดิษฐ์ ต่อยอดไปหลากหลายรูปแบบ และที่สำคัญมีการเผยแพร่มากขึ้น
เคยปลูกแก้วมังกรไว้ 2-3 ค้าง ด้วยใจรัก เพื่อไว้ทานผลที่ปลอดสารพิษ ก็ได้ผลบ้างปีละ 2-3 ลูก มาเปิดเจอการปลูกแก้วมังกรแบบใหม่ ได้ผลมาก ต้นหนึ่งให้ผลเป็น 10 กว่าลูก แถมใช้เนื้อที่น้อย การดูแลก็ทั่วถึง หากท่านสนใจน่าลองนำไปทดลองปลูกไว้ประดับบ้านเพื่อความสวยงาม และได้ผลเป็นของแถม (หากท่านเคยเห็นแล้วก็ขอโทษที่นำมาเผยแพร่ซ้ำครับ)
ไม่รอช้าทดลองทำทันที่ มองหาต้นแก้วมังกรข้างบ้าน ตัดมา 2-3 ท่อน



1.ท่อนพันธุ์แก้วมังกร 3-4 ท่อน
2.ท่อน้ำ PVC ประมาณ 80 ซ.ม.(ท่อนไม้ก็ได้)
3.กระถางดินเผา
4.เชือกฟาง
5.ดิน+เปลือกมะพร้าวสับ+ปุ๋ยคอก


ท่อนพันธุ์แก้วมังกรเป็นรูปสามเหลื่ยมให้เอาด้านแบนเข้าหาเสา



ผลผลิตจากการทดลอง 1 กระถาง/1ค้าง
การดูแลต้นแก้วมังกร
1.การรดน้ำให้รดน้ำเพียง 1 ครั้งภายใน 2-3 วัน และไม่ควรรดมากเกินไปเพราะอาจทำให้เป็นโรคโคนเน่า
2.การให้ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยทุก 15 วัน ใส่ครั้งละ 2-4 ช้อนโต๊ะ สูตรที่ใช้ 15-15-15 หรือ 16-16-16 หลังจากใส่ปุ๋ยแล้วต้องรดน้ำติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน(วันละครั้งเช้าหรือเย็นก็ได้)ถ้ามีปุ๋ยคอกให้ใส่เดือนละ 1 ครั้ง เมื่อปลูกได้เป็นระยะเวลา 6 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ผสมกับ 15-15-15 ในอัตราส่วยครึ่งต่อครึ่ง
เมื่อปลูกแก้วมังกรได้ 8 เดือน-1 ปี ก็จะเริ่มให้ผลผลิตประมาณ 30 ผลต่อ 1 ค้าง ปีที่ 2 ประมาณ 50 ผลต่อ 1 ค้าง ปีที่ 3 ประมาณ 100-200 ผลต่อ 1 ค้าง ปีที่ 4 ประมาณ 300 ผลต่อ 1 ค้างขึ้นไป ขนาดของผลโดยเฉลี่ย 3-4 ผลต่อ 1 กิโลกรัม

ที่มา :  kasetporpeangclub